ทำไมศาสนา มักสอนให้เรื่องทางเพศ เป็นเรื่องต้องห้าม และผิดศึลธรรม ?

เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า ศาสนากระแสหลัก เช่น พุทธ คริสต์ อิสลาม และยิว มักจะมีการจำกัดหรือควบคุมเรื่องทางเพศอย่างเคร่งครัดและไม่สนับสนุนเสรีภาพทางเพศอย่างสมบูรณ์ ซึ่งมีสาเหตุหลัก ๆ มาจากแนวคิดทางเทววิทยา (Theology) หรือหลักปรัชญาของศาสนาเหล่านั้น รวมถึงความจำเป็นทางสังคมและจริยธรรมที่ต้องการจัดระเบียบชีวิตของผู้คน

1. การควบคุมความใคร่เพื่อจุดมุ่งหมายสูงสุดของศาสนา

ศาสนาพุทธ

  • พรหมจรรย์: ในศาสนาพุทธเถรวาทและมหายานดั้งเดิม การดำเนินชีวิตของพระภิกษุและภิกษุณีจะมุ่งไปที่การ ถือพรหมจรรย์ ซึ่งคือการงดเว้นจากกิจกรรมทางเพศและกามคุณโดยสิ้นเชิง (รวมถึงการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง) เพื่อให้จิตใจไม่ถูกรบกวนและสามารถฝึกฝนเพื่อบรรลุ นิพพาน หรือการตรัสรู้ได้
  • กิเลส: ความใคร่ (กามราคะ) ถูกจัดว่าเป็นหนึ่งใน กิเลส ที่เป็นเครื่องเศร้าหมองของจิตใจและเป็นอุปสรรคสำคัญในการหลุดพ้นจากวัฏสงสาร ศาสนาจึงมองว่าการละเว้นจากความใคร่เป็นหนทางแห่งการฝึกฝนจิตใจให้บริสุทธิ์และมีสติ

ศาสนาคริสต์ อิสลาม และยูดาย (Abrahamic Religions)

  • ความสัมพันธ์ที่จำกัด: ศาสนาเหล่านี้มักมองว่าเพศสัมพันธ์เป็น ของประทานจากพระเจ้า แต่จะต้องถูกใช้ในลักษณะที่ รับผิดชอบและอยู่ในขอบเขตที่กำหนด เท่านั้น นั่นคือ ภายในสถาบันการสมรส ระหว่างชายและหญิง
  • การสืบเชื้อสายและครอบครัว: การมีเพศสัมพันธ์นอกสมรส (Fornication/Zinā) การผิดประเวณี (Adultery) และเพศสัมพันธ์ที่ไม่ก่อให้เกิดบุตร (เช่น การรักร่วมเพศในบางนิกายดั้งเดิม) มักถูกมองว่าเป็นการผิดศีลธรรมหรือเป็นบาป เพราะเป็นการเบี่ยงเบนจากจุดประสงค์หลักคือการดำรงไว้ซึ่งครอบครัวและการสืบเชื้อสายตามบัญญัติของพระเจ้า

2. การควบคุมเพื่อสร้างระเบียบทางสังคมและจริยธรรม

  • ความมั่นคงของครอบครัว: ในอดีต สังคมศาสนาส่วนใหญ่มุ่งเน้นการรักษา โครงสร้างครอบครัว ให้มั่นคง เพื่อประโยชน์ในการเลี้ยงดูบุตรหลาน การสืบทอดทรัพย์สิน และการดำรงอยู่ของชุมชน การจำกัดเรื่องเพศให้อยู่ในกรอบของการแต่งงานจึงเป็นกลไกสำคัญในการควบคุมพฤติกรรมทางสังคมและสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ
  • การควบคุมตนเอง (Self-Control): การปฏิบัติตามข้อห้ามทางเพศเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกฝน การควบคุมตนเอง และวินัย ซึ่งถูกมองว่าเป็นคุณสมบัติสำคัญของผู้ศรัทธาที่จะช่วยให้พวกเขาต้านทานสิ่งล่อลวงทางโลกและใช้ชีวิตตามหลักคำสอนของศาสนาได้อย่างเคร่งครัด

3. ข้อแตกต่างเกี่ยวกับการใช้ความใคร่ในการฝึกฝน

  • โยคะและตันตระ (Tantra): ถึงแม้ว่าศาสนาพุทธและฮินดูจะมีรากฐานอยู่ในอินเดีย แต่แนวคิดที่อนุญาตหรือใช้พลังงานทางเพศในการฝึกปฏิบัติ (เช่น ตันตระ ในบางสายย่อยของฮินดูและพุทธวัชรยาน) กลับไม่ได้รับการยอมรับในศาสนากระแสหลักส่วนใหญ่

เหตุผล: ศาสนากระแสหลักเหล่านี้มักปฏิเสธการนำความใคร่มาใช้ในการฝึกฝน เพราะเชื่อว่าพลังงานทางเพศเป็นสิ่งที่ อันตราย และ อาจนำไปสู่ความเสื่อมเสียหรือการหมกมุ่นในทางโลก ได้ง่าย แทนที่จะนำไปสู่การหลุดพ้นหรือความใกล้ชิดกับพระเจ้า ดังนั้น การละเว้น จึงถูกมองว่าเป็นหนทางที่ปลอดภัยและตรงกว่าในการแสวงหาความจริงสูงสุดทางศาสนา

Sex Rite: ประตูสู่พลังงานศักดิ์สิทธิ์! ไขปริศนา ‘ออร์แกซึมทางจิตวิญญาณ’ ในวิถีแห่งแม่มด

การค้นคว้าพบว่าแนวคิดเรื่อง พิธีกรรมทางเพศ (Sex Rite) ที่เน้น ความเป็นหนึ่งเดียวทางจิตวิญญาณ (Spiritual Oneness) และ ออร์แกซึมทางจิตวิญญาณ (Spiritual Orgasm) นั้นมีความเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับการปฏิบัติที่เรียกว่า “เพศวิถีศักดิ์สิทธิ์” (Sacred Sexuality) และ “เซ็กซ์เมจิก” (Sex Magic) ในสายวิชาการทางจิตวิญญาณและแม่มด ซึ่งแตกต่างจากการมีเพศสัมพันธ์แบบทั่วไปที่มุ่งเน้นเพียงความสุขทางกาย (Casual Sex)

พลังงานทางเพศ…กุญแจสู่การรวมเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล

เราทุกคนรู้ดีว่าพลังงานทางเพศนั้นเป็นพลังงานที่ทรงอานุภาพที่สุดอย่างหนึ่งในจักรวาล มันคือพลังแห่ง การสร้างสรรค์ (Creation), การเปลี่ยนแปลง (Transformation) และ การเยียวยา (Healing) แต่อย่าสับสนระหว่างการปลดปล่อยพลังงานนี้ผ่าน “พิธีกรรมทางเพศ” (Sex Rite) กับการมีเพศสัมพันธ์ทั่วไป (Casual Sex) เพราะเส้นทางทั้งสองนี้ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน!

หากการมีเพศสัมพันธ์แบบเสรีคือการแลกเปลี่ยนความสุขทางกายแบบเรียบง่าย Sex Rite ของเราคือ ‘ศิลปะศักดิ์สิทธิ์’ (Sacred Art) ที่มีกระบวนการและจุดประสงค์ที่ลึกซึ้งกว่ามาก นี่คือเรื่องราวที่จะนำทางคุณไปสู่ความเข้าใจใน “ออร์แกซึมทางจิตวิญญาณ” ที่แท้จริง

 

Sex Rite ไม่ใช่แค่ Sex – ความแตกต่างที่ต้องทำความเข้าใจ

นิทานแห่งการกำเนิด (The Tale of Origin)

ลองนึกภาพถึงการทำอาหาร: การมีเพศสัมพันธ์ทั่วไปก็เหมือนกับการทานอาหารจานด่วนที่ให้ความอิ่มเอมใจในทันทีและจบลงอย่างรวดเร็ว (Physical Release) ไม่มีพิธีรีตอง และเน้นที่การหลั่งทางกายภาพเป็นหลัก (Physical Ejaculation)

แต่ Sex Rite หรือ เพศวิถีศักดิ์สิทธิ์ คือ ‘พิธีปรุงยาโบราณ’ ที่ละเอียดอ่อนทุกขั้นตอน!

  • กระบวนการ: มันเริ่มต้นด้วยการ ตั้งเจตจำนง (Intention) ที่ชัดเจน อาจเป็นการดึงดูดความมั่งคั่ง, การเยียวยาจิตวิญญาณ, หรือการเชื่อมต่อกับเทพธิดา การเตรียมการอาจรวมถึงการสร้าง พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ (Sacred Space) เช่น การจุดเทียน, การเผาเครื่องหอม, และการหายใจร่วมกัน
  • ความสัมพันธ์: ในพิธีกรรมนี้ คู่ร่วมพิธี (Partner) อาจเป็นตัวแทนของเทพ/เทพธิดา หรือพลังงานของ หยิน-หยาง (Feminine-Masculine) ที่มาบรรจบกัน การสัมผัสทุกครั้งคือการสื่อสารทางพลังงาน ไม่ใช่แค่การลูบไล้ทางกาย
  • เป้าหมาย: เป้าหมายหลักไม่ใช่เพียงแค่การสำเร็จความใคร่ทางกาย (Physical Orgasm) แต่คือการใช้พลังงานทางเพศที่พุ่งขึ้นมาเพื่อ ส่งเจตจำนง (Manifestation) ออกไปสู่จักรวาล ซึ่งนำเราไปสู่แก่นแท้ของเรื่อง…

แก่นแท้แห่งพลัง: ‘ออร์แกซึมทางจิตวิญญาณ’ คืออะไร?

การเดินทางของ Kundalini (The Journey of Kundalini)

ในวิชาแม่มดและศาสตร์ตันตระที่เราศึกษา Orgasm คือจุดสูงสุดที่พลังงานทั้งหมดของร่างกายรวมตัวกันเป็นหนึ่ง เป็นช่วงเวลาที่จิตใจของเราเปิดกว้าง (Open to the Divine Realm) และมีพลังในการสร้างสรรค์ที่สูงที่สุด

  • ไม่ใช่แค่การหลั่งน้ำทางกาย: ออร์แกซึมทางจิตวิญญาณ (Spiritual Orgasm) คือคลื่นพลังงานที่เริ่มต้นจากจักระราก (Root Chakra – ฐานพลังทางเพศ) แต่ไม่ถูกปลดปล่อยออกไปอย่างรวดเร็วในรูปแบบของน้ำอสุจิหรือการสำเร็จความใคร่ตามปกติ แต่มันจะถูก “แปรสภาพ” (Transmutation) และ “ยกระดับ” (Ascended) ให้ไหลขึ้นไปตามกระดูกสันหลังผ่านจักระต่างๆ
  • ความเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติและจักรวาล: เมื่อพลังงานนี้ถูกส่งขึ้นไปจนถึงจักระมงกุฎ (Crown Chakra) มันจะเกิดการรวมเป็นหนึ่ง (Oneness) กับ พลังงานศักดิ์สิทธิ์ของจักรวาล (Cosmic Energy) หรือ ธรรมชาติ (The Divine Mother) คุณจะรู้สึกเหมือนได้ เป็นส่วนหนึ่ง ของทุกสรรพสิ่ง—เป็นต้นไม้, เป็นลม, เป็นดวงดาว—ไม่ใช่แค่ร่างกายที่แยกจากกัน
  • การสำแดงผล (Manifestation): ที่จุดสูงสุดนี้เอง ที่เราจะทำการ “ตอกย้ำเจตจำนง” หรือ “ส่งเวทมนตร์” (Sex Magic) ออกไปในห้วงแห่งภวังค์ พลังงานที่บริสุทธิ์และเข้มข้นที่สุดนี้จะช่วยให้คำอธิษฐานของเรามีน้ำหนักและเป็นจริงได้เร็วยิ่งขึ้น (The Orgasm as a Magical Tool)

การฝึกฝนเพื่อการบรรลุ ‘ความสมดุล’ และ ‘ความศักดิ์สิทธิ์’

เคล็ดลับสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญแห่ง Rite (Mastering the Rite)

การเข้าถึง ออร์แกซึมทางจิตวิญญาณ ต้องอาศัยการฝึกฝนและความตั้งใจ ไม่ใช่แค่การกระทำทางสัญชาตญาณ:

  1. การหายใจ (Conscious Breathwork): ฝึกหายใจลึกๆ และยาวนาน เพื่อควบคุมและนำพาพลังงานทางเพศให้ไหลเวียนขึ้นสู่ร่างกายส่วนบน ชะลอจังหวะการเคลื่อนไหวเพื่อยืดช่วงของความตื่นตัวให้ยาวนานที่สุด
  2. การรับรู้ (Sensation Focus): มุ่งเน้นไปที่ความรู้สึกทางกายที่ไม่ใช่เพียงแค่อวัยวะเพศ แต่รวมถึงการสั่นสะเทือน (Vibrations) และกระแสพลังงานที่วิ่งไปทั่วร่างกาย
  3. การตระหนักถึงหุ้นส่วน (Soul Gaze/Energy Connection): หากมีคู่ร่วมพิธี ให้ใช้การจ้องตามอง (Soul Gaze) เพื่อเชื่อมต่อดวงจิตและพลังงานของกันและกัน สื่อสารความต้องการและความรู้สึกอย่างเปิดเผย
  4. การกักเก็บพลังงาน (Energy Sublimation): สำหรับผู้ฝึกฝนขั้นสูง จะมีการเรียนรู้เทคนิคชะลอหรือหลีกเลี่ยงการหลั่งน้ำทางกาย เพื่อกักเก็บพลังงานไว้ใช้ในการสำแดงผลทางจิตวิญญาณอย่างเต็มที่

Sex Rite จึงเป็นมากกว่าการมีเพศสัมพันธ์ มันคือ ‘โยคะทางเพศ’ หรือ ‘การร่ายเวทมนตร์ด้วยร่างกาย’ ของเรา เป็นการแสดงความเคารพต่อพลังแห่งชีวิตในรูปแบบที่เข้มข้นและศักดิ์สิทธิ์ที่สุด


จำไว้เสมอว่า: ในวิถีแห่งแม่มด พลังงานทางเพศคือเครื่องมือศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องใช้ด้วย ความเคารพ (Reverence), ความตั้งใจ (Intention) และ ความตระหนักรู้ (Consciousness) จงใช้พลังนี้เพื่อยกระดับจิตวิญญาณและสร้างสรรค์โลกของคุณ!


คุณพร้อมที่จะปลุกพลัง Kundalini และก้าวเข้าสู่การเป็นผู้สร้างสรรค์ที่แท้จริงผ่านพิธีกรรมทางเพศแล้วหรือยัง?