แนวคิดหรือปรัชญาที่อยู่เบื้องหลังการที่ผู้บรรลุธรรมหรือผู้ฝึกจิตระดับสูงไม่ต้องการสวมเสื้อผ้าและไม่รู้สึกอับอายต่อการเปลือยกายนั้น
มีความเชื่อมโยงอย่างชัดเจนกับหลักปฏิบัติในศาสนาฮินดูและศาสนาเชน (Jainism) โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน นิกายทิคัมพร (Digambara) ของศาสนาเชน
ปรัชญาหลักคือ “อปริครหะ” (Aparigraha) หรือการไม่ยึดถือ/การไม่ครอบครอง (Non-possession/Non-attachment)
นี่คือรายละเอียดของแนวคิดที่เกี่ยวข้อง:
การสละความยึดติดในวัตถุ (Complete Renunciation):
- ในนิกาย ทิคัมพร (Digambara) ซึ่งแปลว่า “คลุมด้วยท้องฟ้า” (Sky-clad) ถือว่าการสละเสื้อผ้าเป็นสัญลักษณ์สูงสุดของ อปริครหะ หรือการไม่ครอบครองสิ่งใด ๆ ในโลก รวมถึงเครื่องนุ่งห่มด้วย
- การเปลือยกายเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการละทิ้งความยึดติดในวัตถุทางโลกและทรัพย์สินทั้งหมดโดยสิ้นเชิง เพื่อมุ่งเน้นไปที่การเติบโตทางจิตวิญญาณและวินัยในตนเองเท่านั้น
- ความเชื่อนี้อ้างอิงถึงการปฏิบัติของพระมหาวีระ (Mahavira) ศาสดาองค์สำคัญของศาสนาเชน ที่ทรงเปลือยกายในการบำเพ็ญตบะ
การเอาชนะความอับอายและความรู้สึกทางโลก (Overcoming Shame and Worldly Emotions):
- การไม่สวมเสื้อผ้าเป็นการแสดงออกว่าผู้ปฏิบัติได้ ก้าวข้ามความรู้สึกทางโลก เช่น ความละอาย (Shame) และ ความภูมิใจ (Pride) ที่ผูกติดอยู่กับร่างกายและรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว
- เมื่อจิตใจหลุดพ้นจากกิเลสและความรู้สึกเหล่านี้ ร่างกายก็เป็นเพียงภาชนะที่ไม่มีความสำคัญทางอารมณ์หรือสังคมอีกต่อไป การเปลือยกายจึงไม่เป็นสิ่งที่ต้องปกปิดหรือทำให้รู้สึกอับอาย
การฝึกจิตให้ทนทานต่ออิทธิพลภายนอก (Developing Resilience):
- การไม่สวมเสื้อผ้ายังเป็นรูปแบบหนึ่งของการบำเพ็ญตบะ (Asceticism) เพื่อฝึกฝนร่างกายให้ ทนทานต่อสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น ความร้อน ความเย็น และการเปลี่ยนแปลงของดินฟ้าอากาศ ซึ่งเป็นการเพิ่มความอดทนและความเข้มแข็งทางจิตวิญญาณ
กล่าวโดยสรุป การเปลือยกายในบริบทนี้เป็น หลักปฏิบัติทางจิตวิญญาณ (Spiritual Practice) และ สัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์และการบรรลุธรรมขั้นสูงสุด ซึ่งเกิดขึ้นจากแนวคิดที่ว่า ผู้ที่บรรลุธรรมจะต้องไม่มีความยึดติดใด ๆ แม้กระทั่งเสื้อผ้าที่ใช้ปกปิดร่างกาย